iCurtain ตัวจริงเรื่องผ้าม่าน
หลักสาม “ i ” สู่ความสำเร็จ
สำหรับที่มาของชื่อแบรนด์ “ iCurtain ”
สองพี่น้องอธิบายให้ฟังว่า Curtain นั้นแปลตรงตัวคือผ้าม่าน ส่วนอักษา i นั้นมีที่มาจากแนวคิดหลักสามข้อ
คือ Interior,Imsiam Trading และ I “ Interior“ หมายถึง
การตกแต่งภายใน
ซึ่งเรามองว่าผ้าม่านที่ดีนั้นจะต้องกลมกลืนและสามารถส่งเสริมให้สถานที่ต่างๆมีความสวยงาม
ขณะที่ Imsiam Trading คือ ชื่อบริษัทของเรา ซึ่งดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานหลายสิบปี
มีลูกค้าทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่จำนวนมากที่ให้ความเชื่อมั่น ทำให้เราต้องทำธุรกิจอย่าง
มีมาตรฐานและให้ความสำคัญกับลูกค้า
ส่วนตัวสุดท้าย คือ I ที่แปลว่า ตัวฉัน ผ้าม่านของลูกค้าก็เหมือนกับผ้าม่านของเรา
ผ้าม่านลูกค้าสวยเราก็มีความสุขและรู้สึกดีไปด้วย
ดังนั้นทีมงานของเราทุกคนจะต้องเอาใจใส่ผ้าม่านของลูกค้าเหมือนกับเป็นผ้าม่านของตัวเอง
“ จุดที่เราให้ความสำคัญมาก คือเรื่องของบริการออกแบบและประเมินราคาให้กับลูกค้าที่หน้างานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ”
ภายใต้การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานแนวคิด
“ความจริงใจและความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ” ทำให้บริษัท อิมสยามเทรดดิ้ง
จำกัด ผู้ให้บริการงานผ้าม่านแบบครบวงจรทั้งการผลิต จำหน่ายและติดตั้ง
ภายใต้แบรนด์ “iCurtain” หรือ “อิมสยามผ้าม่าน”
ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาเป็นเวลานานนับสิบปี
โดยสิริชัยและบุญชัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ทายาทรุ่นที่สอง ซึ่งวันนี้ได้เข้ามาบริหารธุรกิจอย่างเต็มตัวเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทว่า
“บริษัท อิมสยาม เทรดดิ้ง จำกัด
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2526 โดยตอนแรก
บริษัททำธุรกิจเครื่องกรองน้ำแบรนด์ “โพลา” ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่วนจุดเริ่มต้นของธุรกิจผ้าม่านนั้นเกิดขึ้นเพราะว่าสมัยก่อนเวลาไปออกงานแสดงสินค้าเพื่อขายเครื่องกรองน้ำ
เราจะเช่าพื้นที่ของบูธค่อนข้างใหญ่ ทีนี้เมื่อมีพื้นที่เหลือ
ประกอบกับเรามองว่าในอนาคตตลาดเครื่องกรองน้ำอาจเริ่มอิ่มตัว จึงมีความคิดที่จะนำสินค้าประเภทอื่นมาขายด้วย ซึ่งก็คือ ผ้าม่านนั่นเอง”
ส่วนสาเหตุที่ต้องเป็นผ้าม่าน เพราะธุรกิจผ้าม่านนับว่าเป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวทางฝั่งคุณแม่
โดยอากงของทั้งคู่นั้นเริ่มทำธุรกิจผ้าม่านมาตั้งแต่ปี 2505
จึงทำให้ทุกคนในครอบครัวคลุดคลีกับธุรกิจผ้าม่านมาตลอด
เมื่อสบโอกาสจึงนำความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีมาแต่ดั้งเดิมมาต่อยอด
ซึ่งหากจะบอกว่าทั้งสิริชัยและบุญชัย
เกิดและเติบโตมาพร้อมๆกับธุรกิจผ้าม่านก็ไม่ใช่คำกล่าวเกินความจริงแต่อย่างใด โดยสิริชัยกล่าวว่า
เนื่องจากคุณแม่ของเขาเป็นคนมองการณ์ไกลจึงเปิดโอกาสและสนับสนุนให้ลูกๆเรียนรู้และมีส่วนร่วมกับธุรกิจผ้าม่านตั้งแต่เด็ก
ซึ่งตรงนี้เองเป็นเป็นการปลูกฝังและเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจให้กับเขาและน้องชายได้อย่างดี
เขาเล่าต่อว่า
ในระยะแรกนั้นรายได้จากธุรกิจผ้าม่านนับว่าเทียบไม่ได้กับเครื่องกรองน้ำ
สิริชัยให้เหตุผลว่าเนื่องจากตอนนั้นผ้าม่านยังไม่มีแบรนด์และขาดการประชาสัมพันธ์
สู่วงกว้าง
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว เขาเชื่อว่าในการขายสินค้าหรือทำธุรกิจประเภทใดก็ตามแบรนด์และการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเมื่อได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานเต็มตัว
สิริชัยจึงตั้งชื่อให้กับธุรกิจผ้าม่านของครอบครัวใหม่ว่า “iCurtain” และทำการประชาสัมพันธ์และพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบุญชัยเองก็เห็นด้วยและมองว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญของบริษัท
สำหรับกลุ่มลูกค้า ทั้งคู่บอกว่าในตอนแรกกลุ่มลูกค้า “iCurtain” โดยมากยังเป็นกลุ่มลูกค้าประจำและลูกค้าดั้งเดิมของครอบครัว จนกระทั่งเมื่ออินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย ทั้งคู่จึงเห็นว่าช่องทางดังกล่าวเป็นโอกาสอันดีในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์สินค้าไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก “ต้องยอมรับว่าในช่วงไม่เกินสิบปีมานี้ อินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์เป็นตัวช่วยที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เรามีการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์อยู่ตลอด นอกจากนี้ก็ยังวางระบบการบริหารจัดการต่างๆ
ภายในบริษัทเพื่อให้ทีมงานของเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฐานลูกค้าเราก็เริ่มขยายไปสู่กลุ่มใหม่ๆ เช่น จากกลุ่มเดิมที่เป็นงานราชการ
งานออฟฟิศ เราก็เริ่มมีลูกค้าตามบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ”
นอกจากผ้าม่านแล้ว “iCurtain” ยังมีสินค้าอื่นๆ
เช่น มู่ลี่, ม่านปรับแสง, วอลล์เปเปอร์, พรม, มู่ลี่ไม้, มู่ลี่ไม่ไผ่, โซฟา, บุผนัง, ม่านมอเตอร์
และม่านม้วน ซึ่งบุญชัยบอกว่าเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่เก็บฝุ่น ใช้พื้นที่ม้นเก็บน้อย ทำความสะอาดง่ายและสามารถตกแต่งเข้ากับสถานที่ได้หลากหลาย
และกล่าวต่อว่า จุดเด่นของ “iCurtain”
คือการมีทีมติดตั้งและโรงงานตัดเย็บผ้าม่านเป็นของตัวเอง
ทั้งยังได้ร่วมงานกับทีมช่างฝีมือลำดับต้นๆ
ของประเทศซึ่งคร่ำหวอดในวงการมากกว่ายี่สิบปี และมีผลงานในสถานที่สำคัญหลายแห่ง
“อีกจุดที่เราให้ความสำคัญมากคือ
เรื่องของการบริการออกแบบและประเมินราคาให้กับลูกค้าที่หน้างานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ทีมงานของเราจะทำการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า ก่อนนำไปพิจารณาบนพื้นฐาน
ประสบการณ์และองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องผ้าม่านที่เรามี
เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของลูกค้าที่สุด”
ปัจจุบัน “iCurtain”
มีโชว์รูมทั้งหมด 4 แห่ง คือ หทัยราษฎร์ (สำนักงานใหญ่) สุวินทวงศ์
เกษตรฯ-นวมินทร์ และบางนา ซึ่งทั้งคู่บอกว่าในอนาคตมีโครงการขยายสาขาเพิ่มทั้งใน
กทม. และต่างจังหวัดอย่างแน่นอน
สำหรับตอนนี้ขอมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าและการบริการของ “iCurtain”
ให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งแบรนด์ผ้าม่านหมายเลขหนึ่งในใจลูกค้าให้ได้