การเลือกผ้าม่านในแต่ละห้อง by iCurtain

ผ้าม่าน

เทคนิคการเลือกผ้าม่านแต่ละห้อง

“ผ้าม่าน”เป็นสิ่งที่มักจะถูกนึกถึงเป็นลำดับหลังๆเมื่อพูดถึงการแต่งบ้าน หลายๆคนจะเริ่มด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่าง โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ แล้วก็มาจบลงด้วยการเลือกผ้าม่านเป็นสิ่งสุดท้าย ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งที่ดูเหมือนตัวประกอบอย่างผ้าม่าน เปรียบเสมือนวัตถุดิบเล็กๆน้อยๆในเมนูอาหารที่เรามักจะไม่ค่อยนึกถึงนักเวลากิน ผ้าม่านก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำหรับเมนูที่เรียกว่า บ้านหรือแม้แต่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งห้องของแต่ละคนก็มีความชอบที่ไม่เหมือนกัน มีจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน ที่ผ่านมาบางคนอาจจะเคยเห็นบ้านที่ติดม่านสวยๆ นึกอยากจะได้แบบนั้นมาติดที่บ้านบ้าง แต่ทำไมดันไม่สวยเหมือนบ้านที่เห็นเลย กลายเป็นว่าต้องมาจ่ายค่าติดตั้งม่านใหม่อีกที
 
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เรามาดูแนวทางการเลือกผ้าม่านสำหรับแต่ละห้องกันดีกว่า
ผ้าม่านหรู

ค้นหาสไตล์ที่ชอบ

บ้านมีหลากหลายสไตล์ ผ้าม่านเองก็เช่นเดียวกัน เพื่อให้ผ้าม่านดูกลมกลืนกับบ้านและห้องของเรา สิ่งที่ควรทำอย่างแรก คือ ตอบคำถามตัวเองว่าเราชอบบ้านสไตล์ไหน? บ้านสไตล์โมเดิร์น สไตล์เนเชอรัล สไตล์คลาสสิก สไตล์คอนเทมโพรารี่
ผ้าม่านหลากสี

กำหนดสีที่ชอบ

เมื่อได้บ้านสไตล์ที่ชอบแล้วต่อมาก็ให้เลือกสีที่ชอบหลักๆมาประมาณ 3-5 สีสำหรับแต่ละแบบอย่างคร่าวๆเพื่อให้สีผ้าม่านเข้ากับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ
ผ้าม่านห้องนอน

จินตนาการถึงภาพห้องเมื่อตกแต่งเสร็จแล้ว

ให้ลองจินตนาการถึงภาพคร่าวๆเมื่อตกแต่งเสร็จแล้วเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจว่าม่านที่เราคิดไว้เหมาะสมหรือเปล่า? เมื่อมาติดกับบ้านจริงๆจะเป็นยังไง ยกตัวอย่างเช่น ชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่อยากติดม่านหลุยส์ที่ดูหรูหรา ก็คงจะไม่เข้ากันเท่าไหร่
ผ้าม่านห้องรับแขก

เลือกรูปแบบผ้าม่าน อุปกรณ์และผ้า

ในลำดับสุดท้ายให้เลือกรูปแบบผ้าม่านว่าอยากได้ม่านแบบไหนเช่น ม่านม้วน ม่านจีบ ม่านปรับแสง ต่อมาก็เป็นรางโชว์ รางโชว์คือส่วนที่เป็นราวใช้แขวนผ้าม่าน ซึ่งก็มีหลายรูปแบบหลายสไตล์ มีทั้งที่ใช้วัสดุ เป็นไม้ พลาสติก สแตนเลสและเพลตตินั่ม ส่วนเรื่องผ้าก็จะมีให้เลือกเช่น ผ้าโปร่ง ผ้ากันยูวี รวมถึงผ้าม่านที่ผลิตจากใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์เคล็ดลับสำคัญคือให้จินตนาการภาพห้องคร่าวๆเสมอ เมื่อทำการเลือกรูปแบบผ้าม่าน อุปกรณ์และผ้า

 ห้องรับแขก

ห้องรับแขกถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของบ้าน เป็นส่วนที่ใช้โชว์ความเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของบ้าน เป็นจุดที่ผ้าม่านจะถูกเห็นมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ผ้าม่านในส่วนนี้ต้องดูดี มีความสวยงามเป็นพิเศษ อุตส่าห์ซื้อเฟอร์นิเจอร์สวยๆมาแต่งบ้านทั้งที ผ้าม่านจะธรรมดาได้ยังไง 
 
Tips : ห้องรับแขกส่วนใหญ่มักจะมีโซฟาไว้สำหรับนั่นเล่นหรือดูทีวี ถ้าเราต้องการความเป็นส่วนตัวและความสวยงามสวยงาม การเพิ่มผ้าโปร่งก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ที่แสงแดดเข้าถึงได้มากที่สุดทำให้แสงแดดและความร้อนเข้ามาทำลายเฟอร์นิเจอร์ ในส่วนนี้แนะนำให้ใช้ข้อดีของผ้าม่านกันแสงมาเป็นประโยชน์ซึ่งมีคุณสมบัติกันแสงแดดและความร้อนได้มากกว่าผ้าม่านเเบบปกติ สามารถติดคู่กับผ้าม่านโปร่งได้สำหรับใช้ในวันที่แดดไม่แรงมาก

ห้องนอน

ห้องนอนตรงข้ามกับห้องรับแขก เพราะฉะนั้นเจ้าของบ้านมีอิสระเต็มที่ในการเลือกผ้าม่านไม่ว่าจะเป็นสีหรือรูปแบบ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงอยู่คือ หากเป็นเจ้าของห้องเป็นคนที่ต้องการห้องที่ค่อนข้างมืด ก็ควรเลือกผ้าม่านที่มีสีเข้ม โทนมืดๆ อย่างสีน้ำเงินเข้มหรือสีเทา แต่หากเป็นคนที่ต้องการความมืดสนิท ก็ควรเลือกผ้าที่มีวัสดุกันแสง ในปัจจุบันมีผ้ากันแสงหลายแบบทั้งแบบเอาผ้า black out สีเงินหรือสีขาวเข้ามาติดหลังผ้าหลัก และผ้าที่เป็นผ้ากันแสงในตัวแบบสอดไส้ผ้า black out และเคลือบโฟมกันแสง ถ้าต้องการเปิดผ้าม่านเวลากลางวันควรจะมีม่าน 2 ชั้นเพราะจะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น 
 
 Tips : ผ้าโปร่งบางตัวนอกจากจะกรองแสงแล้ว ในเวลากลางวันจะช่วยในการมองเห็นภายนอกด้วย แต่ภายนอกไม่สามารถมองเห็นข้างในได้

ห้องทานข้าว

บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่มักจะมีห้องทานข้าวอยู่ใกล้ๆกับห้องรับแขก สามารถเลือกผ้าม่านแบบเดียวกับห้องรับแขกได้ แต่แนะนำว่าให้เปลี่ยนรูปแบบของม่านซักนิดเพื่อให้ห้องมีสัดส่วนที่เหมาะสมมากขึ้นที่สำคัญควรเลือกสีโทนอ่อนๆเพื่อช่วยให้เจริญอาหาร

ห้องโถงบันได

เป็นจุดโชว์ผ้าม่านอีกห้องสำหรับห้องโถงบันได ด้วยขนาดของพื้นที่ที่มีขนาดกว้างและใหญ่โดยส่วนมากผ้าม่านที่ติดตรงโถงบันไดก็มีจะหลายแบบด้วยกัน ตั้งแต่ ผ้าม่านจีบรางธรรมดา รางโชว์หัวสวยๆ ผ้าม่านพับ มู่ลี่ไม้ ม่านยก ม่านหลุยส์ เรื่องสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงคือระยะติดผ้าม่าน แม้ว่าหน้าต่างจะใหญ่หรือไม่ก็ตาม เราสามารถติดผ้าม่านเพื่อทำให้โถงบันไดดูสูงใหญ่ได้ บางครั้งทำผ้าม่านติดขึ้นสุด และลงสุดโถงบันได บางครั้งอาจจะ ขึ้น 15 ซม.จากขอบหน้าต่างและลงสุด หรืออาจจะขึ้น 15 และลงเพียง 20-35 ซม.ก็ได้ ทั้งนี้วิธีดูคือลองจินตนาการดูครับว่าถ้าผ้าม่านปิดขนาดเท่าใดแล้วน่าจะสวย หรือถ้าไม่ใช่ผ้าม่านแบบลอน เป็นแบบอื่น หรือวัสดุอื่นแล้วสวยหรือไม่